กระแสรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศ
ด้วยความที่ว่า “เทรนด์โลก” กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในด้านของเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย ซึ่งหนึ่งในวาระสำคัญของเราทุกคนก็จะเป็นเรื่องของ “รถยนต์ไฟฟ้า” อย่างแน่นอน แต่ในวันนี้เราจะไปสำรวจกันสักหน่อยว่า “กระแสรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศ” เป็นอย่างไรในปัจจุบันกันครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปชมกันเล้ยย!!!
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “รถยนต์ไฟฟ้า” กันสักหน่อยดีกว่าครับ
“รถยนตไฟฟ้า” หรือ รถ EV (Electric Vahicle) ก็คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแทนการใช้เครื่องยนต์ที่มีระบบสันดาปภายใน โดยรถ EV จะใช้พลังงานไฟฟ้าที่เก็บอยู่ในแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้ารูปแบบอื่นที่สามารถชาร์จไฟได้ ซึ่งเปลี่ยนพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้ในการขับเคลื่อน โดยข้อดีของมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้เกิดแรงบิดได้ทันที ส่งผลให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีอัตราเร่งที่เรียบและรวดเร็ว ต่างจากรถยนต์ทั่วไปที่ต้องใช้การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงเพื่อการขับเคลื่อน ซึ่งจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและทุกๆ คน ส่งผลให้ลดการก่อเกิด PM 2.5 อีกด้วยยย
กระแสรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศ
ในต่างประเทศนั้นมีการสนับสนุนจากรัฐให้เปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันอย่างแพร่หลายเลยก็ว่าได้ครับ โดยเฉพาะแถบยุโรป ซึ่งผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับการยกเว้นภาษีจดทะเบียนและภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยรัฐให้เงินสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการที่ติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า และผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทุกคนในประเทศสามารถชาร์จไฟฟ้าในแท่นชาร์จสาธารณะได้ ‘โดยไม่มีค่าใช้จ่าย’ มียกเว้นค่าผ่านทางในถนนที่มีการเก็บค่าผ่านทาง และอนุญาตให้รถยนต์ไฟฟ้าใช้ช่องทางสำหรับรถโดยสารประจำทางและรถแท็กซี่ (Bus and taxi lanes) พร้อมทั้งให้จอดรถในพื้นที่สาธารณะทุกแห่งได้โดยไม่เสียค่าจอด(โดยเงื่อนไขก็แตกต่างกันไปแตะละประเทศครับ) ส่วนในไทยนั้นสัดส่วนผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ายังถือว่าน้อยกว่ามากและการสนับสนุนจากรัฐยังไม่ขัดเจนแถมราคารถและอะไหล่ต่างๆ ก็สูงจนแถบจะห้ามชนเลยครับ
ข้อดีที่ได้จากการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า
- ประหยัดค่าน้ำมัน การใช้รถยนต์ไฟฟ้า ช่วยประหยัดค่าน้ำมัน รวมถึงค่าน้ำมันเครื่องและค่าบำรุงรักษาต่างๆ เพราะเป็นรถที่ไม่มีเครื่องยนต์แต่จะใช้ระบบการทำงานด้วยมอเตอร์และแบตเตอรี่
- การดูแลและบำรุงรักษาทำได้ง่าย เพราะด้วยการที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว การดูแลซ่อมแซมรถจะง่ายและมีค่าใช้จ่ายรายปีน้อยกว่ารถยนต์น้ำมันทั่วไป เพราะไม่ต้องเสียค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ซ่อมเครื่องยนต์ นั้นเองครับ
- ช่วยลดควันพิษและมลภาวะทางอากาศ เพราะรถยนต์ไฟฟ้าใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์และแบตเตอรี่ จึงไม่มีการสันดาปภายใน หรือการเผาไหม้เชื้อเพลิงในเครื่องยนต์แบบรถยนต์ทั่วไป
- เครื่องยนต์ทำงานเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน นอกจากจะช่วยลดมลภาวะทางอากาศแล้ว รถยนต์ไฟฟ้ายังช่วยลดมลภาวะทางเสียง เครื่องยนต์ทำงานเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน
ข้อความระวังในการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า
- ระยะทางการขับขี่มีจำกัด เป็นข้อจำกัดสำหรับใครหลายคนที่สนใจในรถยนต์ไฟฟ้า คือในเรื่องของระยะทางที่ทำได้ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง ซึ่งปัจจุบันก็มีความแตกต่างกันออกไปตั้งแต่ 200-600 กิโลเมตร โดยขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ที่ให้มา ก่อนซื้อควรศึกษาข้อมูลสเปกของตัวรถให้ชัดเจนว่ามีความจุแบตเตอรี่ขนาดไหนครับ
- ต้องวางแผนทุกครั้งก่อนการเดินทางให้ดี แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องของพลังงานเชื้อเพลิงได้มาก แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันสถานีชาร์จไฟยังไม่แพร่หลายเหมือนอย่างปั๊มน้ำมันที่ขับไปถนนเส้นไหนก็เจอ หากขับรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองก็อาจไม่เป็นปัญหามากนัก
- อะไหล่และค่าซ่อมบำรุงมีราคาแพง รถยนต์ไฟฟ้านอกจากจะมีราคาแพงแล้ว อะไหล่ส่วนต่างๆ ยังมีราคาสูงมากอีกด้วย อีกทั้งหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว ต้องใช้เวลานานในการซ่อมนานเอาเรื่องเลย
และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “กระแสรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศ” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้นครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านกันนะครับ