• +66 956742567
  • info@cafevlv.com
  • Bangkok, Thailand
อาหาร
ติดขนมหวาน ภัยร้ายที่ใกล้ตัว

ติดขนมหวาน ภัยร้ายที่ใกล้ตัว

“ขนมหวาน” หรือ “ของหวาน” จัดเป็นอาหารที่มีรสชาติที่ได้รับความนิยมในการบริโภคสูงที่สุดในบรรดาอาหารรสชาติต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศทั่วโลก สามารถสังเกตได้จากประเภทอาหารและผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมายที่ถูกนำเอามาขายตลาดสินค้า ไม่ว่าจะเป็นของหวานประเภทเครื่องดื่มอย่างชาและน้ำอัดลม, ประเภทขนมหวานต่างๆ อย่างเช่น ลูกอม ไอศครีม ช็อคโกแลต รวมไปถึงอาหารรสจัดต่างๆ เช่น อาหารประเภทยำ, ต้ม, ดอง เป็นต้น ซึ่งทุกๆ ท่านเราต่างรู้กกันใช่มั้ยหล่ะครับว่า “การทานอาหารที่มีส่วนผสมของ ‘น้ำตาล’ อยู่เป็นจำนวนมากนั้นไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย” เพราะน้ำตาลที่มากเกินความจำเป็นจะถูกเปลี่ยนให้เป็นไขมันสะสม ซึ่งเป็นสาเหตุของการก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา บทความนี้จะขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับภัยร้ายใกล้ตัวที่เกิดจากการ ติดการกินขนมหวานกันครับ

ภัยร้ายจากการติด “ขนมหวาน”

          สารให้ความหวานจะเข้าไปกระตุ้นการหลั่ง “ฮอร์โมนโดพามีนหรือฮอร์โมนแห่งความสุข” ซึ่งจะทำให้เกิดอาการเสพติดและรู้สึกอยากกินของหวานอยู่ตลอดเพราะของหวานจะทำให้คุณรู้สึกมีความสุขตลอดและกินมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ซึ่งน้ำตาลจากการกินหวานนี้ จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมัน สะสมตามส่วนต่างๆ ของอวัยวะ หากร่างกายใช้พลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ น้อยเกินกว่าที่กินเข้าไปจึงเป็นสาเหตุหลักของการเกิด “โรคเบาหวานและโรคอ้วน”

โรคเบาหวานเป็นอย่างไร ?

          “โรคเบาหวาน” เป็นภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) หรือการดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ส่งผลให้กระบวนการดูดซึมน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงานของเซลล์ในร่างกายมีความผิดปกติหรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จนเกิดน้ำตาลสะสมในเลือดปริมาณมาก หากปล่อยให้ร่างกายอยู่ในสภาวะนี้เป็นเวลานานจะทำให้อวัยวะต่าง ๆ เสื่อม เกิดโรคและอาการแทรกซ้อนต่างๆ ได้

ติดหวาน เสี่ยงโรคอะไรบ้าง ?

          นอกจากเบาหวานแล้ว การบริโภคน้ำตาลเละอาหารจำพวกแป้งมากๆ (ร่างกายจะเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลในระดับโมเลกุล)  ยังเพิ่มความเสี่ยงต่ออันตรายอื่นๆ อีกมากมาย เช่น

ฟันผุ น้ำตาลย่อยง่าย แบคทีเรียในช่องปากจึงสามารถเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว จนเป็นสาเหตุของปัญหาในช่องปากต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟันผุ เคลือบฟันกัดกร่อน โรคเหงือก และกลิ่นปาก
ความดันโลหิตสูง  น้ำตาล ทำให้ฮอร์โมนแคทีโคลามีน และกรดยูริกสูง ซึ่งต่างก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงทั้งสิ้น
โรคหัวใจ อาหารที่มีน้ำตาลสูง เป็นตัวเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ เพราะน้ำตาลมีผลต่อกระบวนการสูบฉีดของหัวใจ เพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ ไขมันเลว กลูโคส และอินซูลินในกระแสเลือด
โรคหลอดเลือดหัวใจ เมื่อกินอาหารประเภทแป้ง และน้ำตาลมากๆ จะทำให้เกิดการสะสมไตรกลีเซอไรด์ขึ้นในร่างกาย ทำให้ปริมาณไขมันในเลือดสูงขึ้น เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจต่างๆ ได้

วิธีเช็คง่ายๆ ว่าเรา“ติดหวาน” แล้วหรือยัง ?

●อยากกินขนมหวานอยู่ตลอดเวลา
●มีอาการเพลีย หงุดหงิด หรืออารมณ์ไม่ดี เมื่อขาดอาหารหรือขนมที่มีส่วนประกอบของแป้งหรือน้ำตาล
●หิวบ่อย
●ต้องทานอาหารหวานต่อจากอาหารคาวเป็นประจำ
●ต้องมีของหวานติดตู้เย็นอยู่ตลอด
●เติมน้ำตาลในอาหารทุกเมนูและมักจะเดิมเครื่องดื่มที่มีความหวานแทนน้ำเปล่า
หากคุณมีอาการข้างต้นนี้ ขอให้ปรับเปลี่ยนวิธีการกินเพื่อป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนในอนาคต โดยเรามีวิธีง่ายๆ มาแนะนำกันครับ

วิธีแก้ อาการติดหวาน แบบไม่เครียด

1. เริ่มจากทำจิตใจให้สบายและตั้งเป้าหมายการกิน ไม่ควรเลิกแบบหักดิบ ค่อยๆ ปรับลดปริมาณน้ำตาลที่รับประทานในแต่ละวันลงให้น้อยกว่าเดิม
2. งดเว้นจากของหวานหลังอาหารทุกมื้อ เปลี่ยนการกินเครื่องเดื่มพวกชาหรือกาแฟ เป็นแบบไม่ใส่น้ำตาลและบริโภคน้ำเปล่าเยอะๆ
3. เลือกรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผักใบเขียวผลไม้สดรวมถึงรับประทานธัญพืชต่างๆ เพราะไฟเบอร์จะช่วยให้คุณอิ่มมากขึ้น ลดความหิวระหว่างวันได้ดี นอกจากนี้ควรลดปริมาณการปรุงอาหารด้วยน้ำตาลและสารให้ความหวานลง เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลให้เหมาะสมครับ

เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้แก่ท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านนะครับ ขอให้ประสบความสำเร็จในการ “ลดหวาน” กันนะครับ